วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิธีทำข้าวหมูแดง

วิธีทำข้าวหมูแดงและสูตรการทำ อาหารจานเดียวที่สร้างรายได้อย่างงดงาม

ข้าวหมูแดงเป็นอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยม กันเป็นอย่างมาก ด้วยความอร่อยความสะดวกสบายในการรับประทาน ข้าวหมูแดงเป็นเมนูอาหารที่สร้างรายได้อย่างงดงามอีกอาชีพหนึ่ง ใครที่คิดจะทำเป็นอาชีพก็ลองทำกินดูก่อนนะ อาชีพขายข้าวหมูแดงเป็นอาชีพที่อิสระอีกอาชีพหนึ่ง และข้าวหมูแดงก็เป็นที่นิยมทำขายกันมากในที่ คนอยู่อาศัยมากตามชุมชนตลาดเก่า ตลาดตอนกลางคืนพ่อค้าแม่ค้าส่วนมากมาจับอาชีพขายข้าวหมูแดงจะรู้สึกว่าร่ำ รวยกันทุกคน แต่ที่สำคัญเราต้องมีทำเลขายของที่ดีก่อนนะจึงจะขายดีร่ำรวยแน่ ต่อไปเรามาดูการทำข้าวหมูแดงกันเลยดีกว่า

ส่วนผสมข้าวหมูแดง

ข้าวหมูแดง
ข้าวหมูแดง
เนื้อหมูส่วนสะโพก                                                                                               1              กิโลกรัม
ซอสมะเขือเทศกระป๋อง                                                                                       3              ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊ว ขาว                                                                                                              1              ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ                                                                                                                 1              ช้อนชา
น้ำตาลทราย แดง                                                                                                1              ช้อนโต๊ะ
เหล้าโรงหรือเหล้าขาว
เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง                                                                                 2              ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา                                                                                                                2              ช้อนชา
น้ำมันพืช                                                                                                               2              ช้อนชา
สีแดงสำหรับผสมอาหาร                                                                                                      เล็กน้อย

วิธีทำข้าวหมูแดง

เอาเนื้อหมูตรงสะโพกมาหั่นเป็นชิ้นยาวและหนาพอสมควรสัก 1 นิ้วเศษ ควรเอาความคมของส้อมจิ้มไปทั่วๆ ชิ้นหมู เพื่อให้เครื่องปรุงและส่วนผสมที่เอามาหมักซึมซาบเข้าไปได้สะดวก เอาชิ้นหมูลงใส่ไว้ในกะละมังใบย่อม เพื่อคลุกเคล้าผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ
ใส่เครื่องปรุงและส่วนผสม ลงไปในชิ้นหมู คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน โดยมีซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช เหล้าขาวหรือเหล้าโรง น้ำตาลทรายแดง เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำมันงา สีแดงผสมอาหาร หมักเอาไว้สัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุงและส่วนผสมแทรกเข้าไปในเนื้อหมูมากๆ จากนั้นเอามาย่างบนเตาถ่านหรือจะเอาไปอบในเตาอบก็ได้เช่นเดียวกันแล้วแต่ สะดวก

เครื่องปรุงน้ำราดหมูแดง

น้ำซุปกระดูก หมู                                                                                                 6              ถ้วยตวง
ผง พะโล้                                                                                                             1              ช้อนชา
เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง                                                                                  2              ช้อนชา
ซีอิ๊ว ขาว                                                                                                             3              ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊ว ดำ                                                                                                               1              ช้อนโต๊ะ
ซอสหอย นางรม                                                                                                  5              ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล ปิ๊บ                                                                                                           3              ช้อนโต๊ะ
พริกไทย ป่น                                                                                                         1              ช้อนชา
แป้งข้าว โพด                                                                                                       2              ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่ว ป่น                                                                                                       3              ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุงน้ำราดหมูแดง

เอาหม้อมาใส่น้ำซุปลงไปตามคำแนะนำก่อนอื่น
ยกตั้งบนเตาไฟ ต้มให้น้ำซุปเดือดแล้วใส่เครื่องปรุงและส่วนผสมลงไปได้ทันที ได้แด่ผงพะโล้ เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสหอยนางรม น้ำตาลปิ๊บ พริกไทยป่น ถั่วลิสงคั่วป่นคนให้กัน
หากดูว่าน้ำน้อยเกินไปก็เติมน้ำซุปลงไปได้อีกพอสมควร ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำซุปเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วราดลงไปทีละน้อย ให้มีลักษณะเหนียว ข้น กำลังพอเหมาะ
ข้าวสวย 1 จาน หั่นหมูแดงวางลงบนข้าวนี้ ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงได้ดีแล้ว วางต้นหอม 2-3 ต้น แตงกวา พริกดองน้ำส้ม ก็อร่อยแล้ว


วีดีโอการทำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ น้ำราดข้าวหมูแดง

อาหารญีปุ่นอย่างง่าย ไข่ม้วนญี่ปุ่น


อาหารญีปุ่นอย่างง่าย ไข่ม้วนญี่ปุ่น ไข่หวานนิยมรับประทานกับซูชิ

 ไข่ม้วนเป็นอาหารญีปุ่นที่ทำจากไข่ไก่ธรรมดาการทำก็จะไม่เหมือนกับ การทอดไข่ของบ้านเราแต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ความนิยมรับประทานกับข้าวปั่นซูชิ ใครที่ยังไม่เคยกินก็ลองทำดู ใครที่อยากจะทำขายแนะนำให้ทำเป็นไส้ของข้าวปั่นซูชิ อร่อย ดี แรก ๆ ทำม้วนจะไม่สวยเท่าไหร่ หรือทำแล้วติดกระทะ แนะนำเลยให้ใช้กระทะเคลือบเพราะไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันหรือใช้ไม่มากนัก เวลาทอดไข่แล้วเรามาม้วนมันจะสวยทำให้ง่ายต่อการทำอาหารไปอีกแบบราคา ของกระทะเคลือบ เดียวนี้ไม่แพงแล้วครับ ควรเลือกซื้อของที่มีคุณภาพหน่อยนะครับเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อตัวเราและ ครอบครัว มาสนุกกับการทำไข่ม้วนญี่ปุ่นเลยดีกว่าครับ

เครื่องปรุงไข่ม้วนญี่ปุ่น

ไข่ไก่ 5 ฟอง
น้ำซุปปลาแห้ง 1 /4 ถ้วย
เกลือป่น 1/ 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไข่ม้วนญี่ปุ่น

ไข่ม้วนญี่ปุ่น-ไข่หวาน
ตั้งกระทะบนไฟกลางจนกระทะร้อนจัด แล้วจึงลดไฟให้อ่อน ใช้ผ้าดิบหรือกระดาษทิชชูชุบน้ำมันเช็ดให้ทั่วกระทะ จากนั้น ค่อย ๆ เทไข่ที่เตรียมไว้ลงไปในส่วนหนึ่ง พอไข่เริ่มเกาะตัวกัน เราก็ค่อย ๆม้วน แล้วก็เทไข่ลงไปอีกส่วนหนึ่ง พอไข่เริ่มจับตัวก็ค่อย ๆ ม้วนอีก เทไข่สลับกับการม้วนเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมไข่จะหมด จากนั้นตั้งไฟสักครู่ จนไข่แห้ง ก็ตักใส่จาน พักไว้ให้เย็น

เคล็ดลับความอร่อย

ไข่ม้วนนี่จะว่าทำง่ายก็ง่าย จะว่าทำยากก็ยาก จะใช้กระทะธรรมดา ๆ ทอดไม่ได้หรอก ต้องใช้กระทะพิเศษสำหรับทำไข่ม้วนโดยเฉพาะ กระทะแบบนี้จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 4 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว สามารถหาซื้อได้ที่แผนกเครื่องครัว ห้าง Isetan

ลูกชิ้นปลาสูตรการทำลูกชิ้นปลา

วิธีทำลูกชิ้นปลาสูตรการทำลูกชิ้นปลาแบบง่ายๆ

 

ลูกชิ้นปลา เป็นอาหารที่เรา ๆ  รู้จักกันเป็นอย่างดีและมีขายทั่ว ๆ  ไป ซึ่งลูกชิ้นปลานี้ก็สามารถนำมาประกอบอาหาร หรือจะทานเป็นของว่างก็ได้ เพราะความอร่อยของลูกชิ้นปลานี่เองคนไทยจึงนิยมนำมาประกอบกับอาหารทั่วไป เช่น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลาทอดกรอบ และอื่นๆ อีกมากมาย และวันนี้พวกเราจึงได้นำสูตรการทำลูกชิ้นปลามาฝากทุกท่าน เพื่อให้ท่านได้ลองนำสูตรกลับไปทำกินกันแบบง่ายๆ หรืออาจเป็นช่องทางแนะนำธุรกิจเพื่อเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย
การทำลูกชิ้นปลาอาศัยหลักการง่ายๆ โดยนวดเนื้อปลากับเกลือจะทำให้ผลิตภัณฑ์เหนียวสามารถปั้นได้ สำหรับอุตสาหกรรมลูกชิ้นปลาผู้ผลิตมักจะใช้น้ำผสมให้ลูกชิ้นนิ่มและเพื่ม ปริมาณของลูกชิ้นด้วย ปริมาณน้ำที่ใช้แล้วแต่ชนิดของปลา ถ้าปลาที่มีน้ำในเนื้อน้อยจะเติมน้ำมากกว่าปลาที่มีน้ำในเนื้อปลามาก บางครั้งผู้ผลิตจะเติมแป้งเล็กน้อยเพื่อให้ลูกชิ้นเนียนขึ้นด้วย

ขอบคุณเจ้าของคลิป foodtravel.tv คุณสามารถเข้าไปดูเพื่มเติมได้อีกที่ :: http://www.youtube.com/user/MrFoodandTravel

วัตถุดิบในการทำลูกชิ้นปลา

  ก่อน ที่จะเริ่มต้นทำลูกชิ้น ให้ทุกท่านมาดูวัตถุดิบที่ใช้ในการทำลูกชิ้นปลากันก่อนเลยครับว่ามีอะไรบ้าง ปลาที่ให้ความเหนียวและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำลูกชิ้นได้แก่ ปลาอินทรี ปลาดาบลาว ปลาหางเหลือง ปลากราย ปลาสลาด ซึ่งเป็นปลาที่มีราคาค่อนข้างแพง ฉะนั้นในการทำอุตสาหกรรมลูกชิ้นจึงต้องใช้ปลาที่มีราคาถูก เช่น ปลาไหลทะเล ปลาฉลาม ปลาแดงตาโต ปลาน้ำดอกไม้ ปลาข้างเหลือง ปลาทรายแดง ปลาทรายขาว และปลาปากคม

ส่วนผสมในการทำลูกชิ้นปลา

1. เนื้อปลา ½ กิโลกรัม
2. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ( 3% ของน้ำหนักตัวปลา )
3. แป้ง 1 ช้อนโต๊ะ ( 2.5 – 5 % ของน้ำหนักตัวปลา )
4. น้ำแข็งบดละเอียดหรือน้ำเย็นจัด ( ขึ้นอยู่กับความชื้นของเนื้อปลาบด )

เครื่องไม้เครื่องมือในการทำ

1. มีดและเขียงชำแหละปลา
2. เครื่องบดปลา
3. เครื่องนวดปลา
4. หม้อต้มลูกชิ้น
วิธีทำทำลูกชิ้นปลา
- ขั้นตอนแรกให้ชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ
- ขั้นตอนที่สองให้นำเนื้อปลามาบด ด้วยเครื่องบดประมาณ 2-3 ครั้ง หรือสับให้ละเอียด
- ต่อจากนั้นนวดเนื้อปลาในเครื่องนวดผสม ประมาณ 5 นาที จึงเติมเกลือ/น้ำเกลือครึ่งหนึ่ง
- พอเสร็จจากขั้นตอนการนวด ให้ท่านนวดต่อไปอีกประมาณ 5 นาที เติมเกลือส่วนที่เหลือ และนวดต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที ซึ่งระหว่างนวดเติมน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัด เพื่อให้เนื้อปลาเย็นและช่วยให้เหนียวยิ่งขึ้น ถ้าต้องเติมแป้งก็สลับกันกับน้ำจนกระทั้งเข้ากันดี
- ใช้ช้อนตักเนื้อปลาที่นวดแล้วให้เป็นลูกกลม ๆ ใส่ลงในน้ำอุ่น ๆ ที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20 นาที ระหว่างที่แช่ต้องคอยเติมน้ำอุ่นอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกชิ้นแข็งตัวพอสมควร
- หลังจากนั้นนำลูกชิ้นไปต้มในน้ำเดือด เมื่อลูกชิ้นลอยแล้วจึงตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที
-  และถ้าต้องการถนอมลูกชิ้น ให้แช่ในตู้เย็นเก็บได้นาน 1-2 สัปดาห์ (ไม่ควรแช่แข็ง) หรือแช่น้ำแข็งได้นาน 1 สัปดาห์

ยำมะม่วงปูม้า

“เส้นทางอาชีพ” ยำมะม่วงปูม้า สุดยอดอาชีพทำเงินที่ทุกท่านควรรู้จัก

ยำมะม่วงปูม้า เป็นอาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมกันมากในช่วงนี้ รสชาติของปูม้าสดๆ ผสมกับมะม่วงน้ำดอกไม้อมเปรี้ยวมัน คลุกเคล้ากับน้ำราดสูตรพิเศษ และเพิ่มพริกป่นลงไปยิ่งทำให้ยำมะม่วงปูม้ามีรสจัดจ้าน แซ่บเพิ่มขึ้นอีกนอกจากนี้ยังมียำปูม้า และยำมะม่วงสูตรเด็ดรวมอยู่ด้วยลูกค้าสามารถสั่งได้ตามความชอบของลูกค้าแต่ ละคน บางคนติดอกติดใจถึงขั้นต้องสั่งพิเศษถุงเดียว 100 บาทเลยทีเดียว ซึ่งปกติขายเพียงถุงละ 40 บาทเท่านั้นเอง
อาชีพยำมะม่วงปูม้า
ยำมะม่วงปูม้า พี่เอก@พัทยา
ทางทีมงานของเราได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ร้าน ยำมะม่วงปูม้าร้านนึง ซึ่งเป็นเพียงร้านเล็กๆ เป็นรถมอเตอร์ไซต์ต่อพ่วงเพื่อขายยำมะม่วงปูม้า แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าลูกค้าที่มาอุดหนุน เยอะมากจนเราตกใจ เพราะลูกค้าบางท่านมารอนานเป็นชั่วโมงแต่ก็ไม่มีใครยอมลุกหนี มีแต่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวเราซะทีนะ (ทีมงานยังต้องรอนะค่ะ) เมื่อได้โอกาสเราจึงได้สอบถามเจ้าของร้านยำมะม่วงถึงความเป็นมาและจุดเริ่ม ต้นของอาชีพนี้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายๆ ว่าทำอย่างไรกันบ้าง

เจ้าของร้านยำมะม่วงปูม้า @พัทยา

ลูกค้ายำมะม่วงปูม้าเจ้าของร้านชื่อคุณ สุนทร  หรือเรียกชื่อเล่นว่า พี่เอก ทีมงานของเราจึงได้สอบถามเกี่ยวกับความเป็นมาของร้าน พี่เอกตอบกับทีมงานเราว่า พี่เอกเป็นคนจังหวัดชัยนาท ก่อนจะมาประกอบอาชีพนี้พี่เอกเคยเป็นเทรนเนอร์มาก่อน อยู่มาเกือบสิบปีแต่ก็ต้องมีเหตุให้พี่เอกต้องออกจากงาน เลยหันมาศึกษาเกี่ยวกับการทำยำมะม่วงปูม้า เพราะเล็งเห็นว่ายังไม่ค่อยมีใครขายเราน่าจะบุกตลาดได้เพราะลูกค้าบางท่าน ยังไม่เคยชิมมาก่อน ตอนนี้มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรที่มาอุดหนุนจนหมดทุกวัน  ลูกค้าบางท่านอาจจะโทรมาสั่งจองคิวไว้ล่วงหน้าเพราะกว่าจะได้ทานต้องรอคิว นานมาก ลูกค้ามีทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาอุดหนุน พี่เอกยังบอกอีกว่าเมื่อก่อนที่มาขายยำมะม่วงปูม้าครั้งแรก ขายได้น้อยมากเพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก พี่เอกต้องใช้ความพยายามและความอดทนขายต่อมาได้ประมาณสามเดือน ก็ปรากฏว่ามีลูกค้าที่เคยมาอุดหนุนและติดอกติดใจในรสชาติจนกลายเป็นที่ชื่น ชอบ บอกต่อปากต่อปากจนทำให้ทุกวันนี้ร้านยำมะม่วงปูม้าของพี่เอกมีกำไรเพิ่มมาก ขึ้นและขายดิบขายดีจนถึงทุกวันนี้
น้ำราดยำมะม่วงปูม้าสูตรเด็ด กระปุกละ 200 บาทสูตร น้ำราดนี้เป็นปัจจัยสำคัญของยำมะม่วงปูม้าที่พี่เอกคิดขึ้นเองเป็นสูตรเด็ด เฉพาะ สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะขายยำมะม่วงปูม้าแต่ทำน้ำราดไม่เป็นพี่เอกยินดี ขายส่งให้ทั้งในพัทยาและต่างจังหวัด และท่านใดสนใจอยากมีร้านขายยำมะม่วงปูม้าเป็นของตนเอง หากท่านยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับอาชีพนี้ท่านสามารถติดต่อสอบถามพี่เอกได้ ที่ เบอร์โทร 083-889-070-5  เพราะพี่เอกนอกจากจะขายยำมะม่วงปูม้าแล้วยังขายส่งน้ำราดสูตรเด็ดนี้ด้วย ราคาโหลละประมาณ 200 บาท หากท่านอยู่ต่างจังหวัดท่านสนใจอยากสั่งซื้อก็ลองติดต่อสอบถามกับพี่เอกได้ นะค่ะ

เครื่องปรุงและส่วนผสมการทำยำมะม่วงปูม้า

1. หอมแดงซอย 2. ผักชีฝรั่งซอย 3. กระเทียมหั่นแว่น 4. กุ้งแห้ง 5. ปลากรอบ 6. ถั่วลิสงคั่ว 7. พริกขี้หนูสดหั่น 8. พริกป่น 9. น้ำปลา 10. ผงชูรส 11. มะม่วงน้ำดอกไม้ 12. ปูม้าสด และลำดับสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยและเป็นหัวใจสำคัญของยำมะม่วงปูม้านั่นคือ น้ำราดสูตรเด็ดที่พี่เอกคิดค้นเองเป็นเวลานานนับปี
หมายเหตุ: พี่เอกตวงเครื่องปรุงและส่วนผสมในอัตราส่วนเท่าๆ กันใส่ถุงไว้ เมื่อถึงเวลายำพี่เอกจะนำส่วนผสมนั้นเทลงในภาชนะเลยทันที เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการตักตวงส่วนผสมในภายหลัง เพื่อความสะดวกรวดเร็วเวลาที่ลูกค้ามากันเยอะๆ จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ

วิธีทำยำมะม่วงปูม้า

ขั้นตอนการทำ
1. นำปูม้ามาล้างให้สะอาด และพลิกตัวปูดูที่ด้านหลังปูจะเจอตะปิ้ง ซึ่งอยู่ตรงกลางของกระดองให้แกะทิ้งไป เมื่อแกะตะปิ้งทิ้งแล้วให้ดูรอยต่อระหว่างตะปิ้งกับกระดองจะเห็นเป็นรอยแยก เล็กๆ เราจะชำแหละแทรกเข้าไปเพื่อแยกกระดองออกจากตัวปูนั่นเอง
2.นำมะม่วงน้ำดอกไม้ใส่ลงไปในภาชนะ หลังจากนั้นให้นำพริกขี้หนูสดหั่นใส่ลงไป หอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย กระเทียมหั่นแว่น กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว และปลากรอบใส่ตามลงไปในภาชนะ
3. เมื่อนำส่วนผสมเทลงในภาชนะแล้ว ให้นำปูม้าสดใส่ลงไป และเติมพริกป่น ผงชูรส น้ำปลา และที่ขาดไม่ได้คือน้ำราดสูตรเด็ดนั่นเองค่ะ
4. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และชิมรสชาติของยำมะม่วงปูม้าดูว่ารสชาติถูกปากรึเปล่า หลังจากนั้นก็ตักใส่ชามและเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
หมายเหตุ: หากท่านต้องการทานรสชาติแบบไหนท่านสามารถกะตวงปริมาณของวัตถุดิบตามความชอบ ได้เลยนะค่ะ เพราะรสชาติหลักขึ้นอยู่กับน้ำราดที่เราทำขึ้นเองด้วยค่ะ

ต้นทุนในการเปิดร้านยำมะม่วงปูม้า

ต้นทุนในการเปิดร้านขายยำมะม่วงปูม้า พี่เอกบอกว่าลงทุนครั้งแรกลงทุนไม่เกิน 10,000 บาทก็สามารถเปิดขายได้ และส่วนของการลงทุนขายวันต่อวันนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่ว่าในแต่ละวันเราขายได้กำไรมากน้อยเท่าไหร่ หักลบแล้วก็ต้องนำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อของเพื่อขายในวันถัดไป ลงทุนวันนึงก็ประมาณ 2,000 – 3,000 บาทต่อวัน
พี่เอกได้บอกกับเราอีกว่า กำไรในการขายยำมะม่วงปูม้าเดือนๆ นึง รับ 45,000-50,000 บาท ซึ่งเป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ต้องขายให้มะม่วงหมด 10 กิโลขึ้นไปนะค่ะ พี่เอกเตรียมของเสร็จก็ออกจากบ้านมาขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น ขายเสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่ม ขายแบบนี้ทุกๆ วัน และประกอบอาชีพนี้มานานกว่าสามปีแล้ว ซึ่งเป็นอาชีพที่สุจริตและสามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่อายใครเลยค่ะ


การขายยำมะม่วงปูม้า
ถ้าในวิกฤติเศรษฐกิจที่ปูม้าแพงหรือมะม่วงแพง อาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้แต่พี่เอกก็จะไม่ขึ้นราคาแต่อาจจะลดปริมาณลงเล็ก น้อยเพื่อสอดคล้องกันกับช่วงข้าวของแพงแต่ก็ยังคงรสชาติอร่อยเช่นเดิม และการเลือกปูม้าว่าสดหรือไม่นั้นพี่เอกบอกว่าให้จับดูที่ใต้ท้องปูม้าว่า ท้องมันแน่นหรือเปล่าและใช้ยางวงรัดไว้อีกที และปูม้าต้องยังมีชีวิตสดๆ เป็นๆ อยู่ ถึงจะเรียกว่าสดจริง และแต่ละวันของการขายถ้าปูม้าเหลือพี่เอกก็จะไม่นำกลับมาขายใหม่เพราะจะทำ ให้ปูม้าไม่สด เสียรสชาติและอาจจะเสียลูกค้าด้วย แต่ถ้ามะม่วงน้ำดอกไม้เหลือเราสามารถนำกลับมาขายได้ใหม่ประมาณสามวัน โดยใช้วิธีการเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อจะคงความสดของมะม่วงไว้ ลูกค้าบางท่านที่ซื้อยำมะม่วงปูม้าไปรับประทานบางท่านอาจจะทิ้งไว้ประมาณ 10 – 20 นาที เพื่อจะให้น้ำราดซึมเข้าไปในเนื้อมะม่วงจนทำให้มะม่วงนิ่มและเป็นการเพิ่มรส ชาติไปอีกแบบนึง หรือบางท่านเมื่อซื้อไปอาจจะรีบแกะถุงและรีบกินเลยก็ได้ (เพราะอดใจรอไม่ไหวค่ะ)



แกงมัสมั่นไก่


วิธีทำแกงมัสมั่นไก่ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้อีกทางเลือกนึง

แกงมัสมั่น เป็นอาหารขึ้นชื่อที่ใครหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีซึ่งจะมีรสชาติเผ็ดมัน แกงมัสมั่นเดิมเป็นอาหารที่มาจากมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงนี้ว่า “ซาหละหมั่น”  ซึ่งแต่ละภาคก็จะมีการทำแกงมัสมั่นแตกต่างกันออกไป ถ้าเป็นชาวมุสลิมปักษ์ใต้จะมีวิธีการปรุงที่แตกต่างจากภาคกลาง และแกงมัสมั่นนี้ ถ้าใครที่ต้องการทานเนื้อ หมู หรือไก่ เราก็สามารถนำสูตรมาดัดแปลงและลองทำดูได้ไม่อยากเลยทีเดียว ส่วนใครยังไม่เคยลองทำ วันนี้ ได้นำสูตรและวิดีโอการทำแกงมัสมั่นมาให้ทุกท่านได้ลองกลับไปทำดูกันที่บ้าน แบบง่ายๆ และยังช่วยสร้างเสริมอาชีพการทำอาหาร เพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้อีกทางเลือกนึง

เครื่องปรุงที่ต้องเตรียมมีดังนี้

1. ไก่บ้านควักเครื่องในออก สับเป็นชิ้นกำลังดี 1 ตัว
2. หอมหัวใหญ่หรือหัวเล็กปอกเปลือก 10 หัว
3. มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมกำลังพอดี 20 ชิ้น
4. กะทิสำเร็จรูป 2 กล่อง
5. ถั่วลิสงถั่ว ½ ถ้วยตวง
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
8. เครื่องปรุงรส รสไก่ ชนิดผง 2 ช้อนชา
9. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
11. ลูกกระวาน
12. ใบกระวาน

ส่วนผสมน้ำพริกเครื่องแกงมัสมั่น

1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ แกะเอาเมล็ดออก แช่น้ำจนนิ่ม บีบเอาน้ำออก 15- 20 เม็ด
2. ตระไคร้ซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
3. หอมแดงปลอกเปลือก 5 หัว
4. กระเทียมหัวเล็กแกะเปลือก 2 หัว
5. ข่าหั่นเป็นแว่นๆ 3 แว่น
6. เม็ดพริกไทยล่อน 15 เม็ด
7. รากผักชีหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2 ช้อนโต๊ะ
8. เม็ดผักชีคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
9. ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา
10. ลูกกระวาน 5 ลูก
11. ใบกระวาน 5 ใบ
12. กานพลู 5 ดอก
13. อบเชยคั่วป่น 1 ช้อนชา
14. ลูกจันทน์คั่วป่น ½ ช้อนชา
15. ดอกจันทน์คั่วป่น ½ ช้อนชา
16. กะปิห่อใบตองเผาไฟ 1 ช้อนชา
17. น้ำมัน

วิธีปรุงน้ำพริกเครื่องแกง

จัดการโขลกน้ำพริกเครื่องมัสมั่นให้ละเอียดตามเครื่องปรุงและส่วนผสมข้าง ตันนี้แล้วพักเอาไว้เพื่อแกงต่อไปตามกรรมวิธี วิธีปรุงไก่บ้านทำเรียบร้อย แล้ว เตรียมแกงได้ทันที น้ำพริกแกงมัสมั่นโขลกละเอียดสดๆ หอมกรุ่น มันฝรั่งหอมใหญ่ปอก หั่น เตรียมแกงได้ ทุกอย่างพร้อมสรรพ การปรุงแกงมัสมั่นเริ่มต้นได้ทันที เอากระทะขึ้นตั้งบนเตาไฟ เอาน้ำมันพืชใส่ลงไป 3 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันพืชร้อนก็เอาน้ำพริกเครื่องแกงมัสมั่นใส่ลงไปผัดให้หอมกรุ่น ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เครื่องปรุงรสรสไก่ชนิดผง ถั่วลิสงคั่ว ผัดไปมาแล้วเอากะทิใส่ลงไป 1 กล่อง คนให้ทั่วถึงกันใส่ลูกกระวานที่ทุบแตกแล้วลงไปใส่ใบกระวาน ใส่ไก่บ้านสับเป็นชิ้น ลงไปเคี่ยวด้วย ใส่มันฝรั่ง ใส่กะทิลงไปอีก 1 กล่องแล้วเคี่ยวต่อ ใส่หอมหัวใหญ่ที่เป็นหัวเล็กๆ ลงไปอีกอย่างหนึ่ง เคี่ยวไปเรื่อยๆ ไก่จะเปื่อยกำลังดี ลองชิมดูให้ออกรสเค็ม หวาน เปรี้ยวเล็กน้อย อ่อนอะไรก็เติมอีกได้จนพอดีก็ใช้ได้ ตักใส่หม้อแกงเอาไว้เสิร์ฟได้ทันที ตักใส่ชามแกงหรือราดข้าว เป็นแกงมัสมั่น ที่หากินได้ยากมากเพราะร้านข้าวแกงมักจะไม่ค่อยแกงขายกันแล้ว

ก๋วยเตี๋ยวน่องไก่



แม่ปันปรายชอบทำก๋วยเตี๋ยวค่ะ ทำบ่อยมาก แฟนบล็อกขาประจำคงจะทราบดีเพราะมีเมนูเส้นๆ หลายเมนูแล้ว
แต่ทำก๋วยเตี๋ยวหมู หรือเนื้อทานบ่อยๆ ก็เบื่อเหมือนกันนะคะ
ช่วงหลังๆ เพื่อนๆที่ทำงานชอบชวนไปทานก๋วยเตี๋ยวไก่กันค่ะ เป็นน้ำข้นแบบน้ำพะโล้ ไม่ใช่ก๋วยต๋วยไก่ฉีกน้ำใส แบบที่เคยทำ
วันนี้เลยนึกอยากลองทำดูมั่ง แต่ก็ยังเป็นแบบง่ายๆ แบบแม่ปันปรายอยู่ดีค่ะ (มั่วไว้ก่อน)


เริ่มจ่ายตลาดกันเลยค่ะ
  • น่องไก่ 1/2 กก. (ซื้อน้อยเพราะต้องซื้อลูกชิ้นไว้ให้เด็กๆด้วย)
  • ตีนไก่ 1/2 กก. (อันนี้คุณตาชอบค่ะ)
  • โครงไก่ 2 โครง
  • เส้นก๋วยเตี๋ยวตามชอบ (เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เป็นต้น)
  • คะน้าอ่อน 2 กำ (หั่นเป็นท่อน)
  • ถั่วงอก 10 บาท
  • ชุดทำก๋วยเตี๋ยว 1 ชุด (มีขายตามตลาดสดทั่วไป พบเจอได้ที่ร้านขายเส้นก๋วยเตี๋ยว วันนี้ใช้แบบน้ำใสเพราะที่บ้านมีอยู่แล้ว เคยซื้อแบบ น้ำข้นมา แล้วสังเกตว่าเค้าเพิ่มผงพะโล้ลงไป ก็เลยเพิ่มเอาเองค่ะ)
  • ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 2 กลีบใหญ่
  • พริกไทยเม็ดประมาณ 10 เม็ด
  • ต้นหอม ผักชี คึ่นฉ่าย (ซอยเล็กๆ)
  • ตั้งฉ่าย
  • กระเทียมเจียว


วิธีทำ
  • ล้างและลวกโครงไก่ด้วยน้ำเดือด
  • ต้มน้ำก๋วยเตี๋ยว (แม่ปันปรายใช้หม้อ ขนาดประมาณ 30 ชม.)
  • ใส่ ชุดทำก๋วยเตี๋ยวลงไป โดยไม่ต้องรอให้น้ำเดือด หลังจากนั้นใส่โครงไก่ที่ลวกแล้วลงไป รอให้เดือด
  • ตำกระเทียมพริกไทยพอหยาบๆ แล้วนำไปผัด กับผงพะโล้ รอจนหอมแล้วใส่น่องไก่และตีนไก่ลงไปผัด ผัดต่อซักครู่ แล้วนำลงไปใส่ในน้ำก๋วยเตี๋ยว รอจนเดือด แล้วปรับไฟเป็นไฟอ่อน
  • แม่ปันปราย เคี่ยวน้ำตาลด้วยเพื่อเพิ่มสีให้กับน้ำพะโล้ ดูได้จาก เมนูหมูเค็ม

  • เมื่อเคียวน้ำตาลได้ที่แล้ว ค่อยนำมาเติมใส่น้ำก๋วยเตี๋ยว ระวังน้ำเดือดกระเด็น ให้ค่อยๆใส่และลดไฟที่หม้อก๋วยเตี๋ยวก่อน
  • ปรุงรส ด้วยเกลือ น้ำตาล ซีอิ๊วขาว (วันนี้แม่ปันปรายใส่ ผงปรุงรส (รสดี) ด้วยประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
  • ใส่ซีอิ๊วดำหวาน เพิ่ม เมื่อเห็นสียังไม่สวย ประมาณ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
  • ชิมและปรุงรสต่อ จนพอใจค่ะ
 
และเมื่อน้ำก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว ก็ลวกเส้น ลวกผัก เติมน้ำก๋วยเตี๋ยว เติมเครื่องปรุง แค่นี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะ

หมายเหตุ เวลาทำกับข้าวหม้อใหญ่ๆแบบนี้ ใครไม่เคยทำมักจะปรุงไม่เข้าใจนะคะ แต่เดิมแม่ปันปรายก็เป็นค่ะ
ดังนั้นอย่ากังวล หม้อใหญ่ขึ้นเครื่องปรุงก็เยอะขึ้นเป็นธรรมดา อย่างน้ำก๋วยเตี๋ยวนี่ แม่ปันปรายเคี่ยวน้ำตาล ใช้น้ำตาลทราย ประมาณ 1 ถ้วยตวง แต่ก็ดูเหมือนยังไม่พอ เลยต้องเพิ่มน้ำตาลลงไปในหม้ออีก
เกลือก็ใส่ไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ (โดยรวมแล้วนะจ๊ะ ไม่ได้ใส่ไปในครั้งเดียว) ปรุงไป ทำไป สนุกดีค่ะ
 




ขนมกรอบเค็ม

วิธีทำขนมกรอบเค็ม โรตีกรอบขนมทานเล่นสร้างรายได้สร้างอาชีพ

กรอบเค็ม และ โรตีกรอบ เป็นขนมทานเล่นที่สามารถสร้างรายได้ ให้เราได้เป็นอย่างดี และยังสามารถทำเป็น อาชีพเสริม ขายในเวลาเลิกงานก็ได้ด้วย หรือจะทำเป็นอาชีพอิสระทำเป็นธุรกิจหลักกันเลยก็ได้ แนว ทางที่จะนำมาแนะนำต่อไปนี้ ทำให้ท่านมีแนวคิดหรือมีช่องทางทำมาหากินกัน ก่อนจะเข้าเนื้อหาก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณ คุณ นิภา อาบทอง ผู้ที่ให้สัมภาษณ์การทำอาชีพในครั้งนี้ และขอขอบคุณทีมงานข่าวเดลินิวส์ ที่ได้ชี้ช่องทางให้ในวันนี้ สำหรับท่านใดที่สนใจ ที่อยากจะมีอาชีพเป็นของตัวเองการทำขนมทานเล่นอย่างขนมกรอบเค็ม-โรตี ที่ สามารถทำขายได้ตลอด จากประสบการณ์เจ้าของอาชีพทำขนมขายนานานกว่า ยี่สิบ ปี…เรามาดูกันเลยว่าเป็นอย่างไร
กรอบเค็ม
นิภา อาบทอง เจ้าของนิภากะหรี่ปั๊บและปั้นขลิบทอด เล่าว่า เมื่อก่อนมีอาชีพเป็นพนักงานขายแว่นตา และเคยเปิดโรงงานทำวงกบประตูหน้าต่าง ร้านทำมุ้งลวดเหล็กดัดมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเปลี่ยนอาชีพ โดยได้คำแนะนำเรื่องขนมจากหลาน ซึ่งตนก็ไปเรียนรู้ใหม่หมด โดยแรก ๆ ขายในหมู่บ้านที่อยู่ก่อน จากนั้นก็มาขายตามตลาดนัดต่าง ๆ แต่ก็ขายไม่ค่อยดี จึงมาหาที่ขายตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งก็ได้แหล่งขายหลายที่ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เพราะโรงพยาบาลมีคนมาก อีกทั้งยังมีคนไข้ซื้อไปฝากหมอบ้าง ฝากพยาบาลบ้าง ทำให้อาชีพขายของตนประสบความสำเร็จ

ในส่วนของ กรอบเค็ม และ โรตีกรอบ นั้น นิภาบอกว่า เป็นสินค้าที่แตกขยายเพิ่มออกมา เพราะต้องการให้ของมีความหลากหลายมากขึ้น และวิธีทำก็คล้าย ๆ กัน ซึ่งทั้งกะหรี่ปั๊บ ปั้นขลิบ กรอบเค็ม โรตีกรอบ ขายดีเท่า ๆ กันทุกอย่าง อุปกรณ์ในการทำ หลัก ๆ ก็มีเตาแก๊ส เครื่องตีแป้ง กระทะ กะละมัง ไม้นวดแป้ง มีด ฯลฯ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำอาหาร และทำขนมโดยทั่ว ๆ ไป

วิธีทำและส่วนประกอบ

1.แป้งสาลี 10 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย 3-4 กิโลกรัม
3.กะทิ 1 กิโลกรัม
4.เกลือ 1 ถุง
5.น้ำมัน 500 กรัม
นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกะละมังตีแป้ง นำใส่ครื่องตี ตีไปประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วนำแป้งที่ตีแล้วใส่ถุงพลาสติกมัดปากให้แน่น ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ทั้งแป้งกรอบเค็ม และโรตีกรอบ มีส่วนผสมของแป้งแบบเดียวกัน

วิธีปั้นแป้งกรอบเค็ม

ให้ปั้นแป้งออกมาเป็นขนาดเท่ากำมือ รีดแป้งให้บาง จากนั้นใช้มือคลึงให้เป็นเส้นยาว ความกว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เซนติเมตร แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ ละ 3-5 เซนติเมตร แล้วนำไปทอดน้ำมันให้สุกกรอบ
ส่วนแป้งโรตีกรอบ ให้ปั้นแป้งเป็นก้อน ๆ ขนาดเท่ากำมือ รีดเป็นแผ่นบาง ให้เป็นขนาดสี่เหลี่ยม จากนั้นพับแป้งไปมา 3-4 ชั้น นำไปทอดให้สุกกรอบเช่นกัน

เครื่องปรุงกรอบเค็ม และโรตีกรอบ

เครื่องปรุงที่นำลงไปผัด เครื่องปรุงผัดกรอบเค็มมี
1.น้ำตาลปี๊บ 5 กิโลกรัม
2.พริกไทย 2 กิโลกรัม
3.น้ำมะขามเปียก 200 กรัม
4.ต้นหอมซอยพอประมาณ ส่วนเครื่องปรุงโรตีกรอบจะลดในส่วนของพริกไทยลงเหลือ 1.5 กิโลกรัม
ผัดเครื่องปรุงทุกอย่างในกระทะ โดยใส่น้ำตาลปี๊บลงไปก่อน เคี่ยวให้ละลาย จากนั้นใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงไป นำแป้งกรอบเค็ม หรือโรตีกรอบ ที่ทอดเตรียมไว้ ใส่ลงไปคลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพักให้เย็น แล้วจึงบรรจุใส่ถุงขาย

ราคาขายกรอบเค็มและโรตีกรอบ

ราคาขายอยู่ที่ขีดละ 30 บาท โดยนิภาบอกว่า จากราคาขายกรอบเค็ม และโรตีกรอบ ต่อ 10 ขีด หรือ 1 กิโลกรัม 300 บาทนั้น จะมีต้นทุนประมาณ 180-200 บาท